Phuket-show-siam-niramit-thailand-history

        สยามนิรมิต นับเป็นอีกหนึ่งการแสดงนาฏศิลป์ไทยประยุกต์ที่มีความงดงาม ความยิ่งใหญ่ ความตระการตา และมีส่วนสำคัญในการทำให้ชื่อเสียงของศิลปวัฒนธรรมไทยโด่งดังไกลไปในต่างแดน ทั้งนี้ จากการประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วของ สยามนิรมิต กรุงเทพฯ ซึ่งเริ่มเปิดการแสดงเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2548 ก็ได้ทำให้ บริษัทรัชดานิรมิต (บริษัทผู้สร้างสรรค์การแสดงชุดสยามนิรมิต) ตัดสินใจขยายฐานธุรกิจลงไปยังเมืองไข่มุกแห่งอันดามันและเริ่มเปิดเวทีการแสดง สยามนิรมิต ภูเก็ต ขึ้นอีกแห่งเมื่อปลายปี พ.ศ. 2554

เนื้อหาในการแสดงสยามนิรมิตทั้งหมด ถูกแบ่งออกเป็น 3 องค์ใหญ่ ได้แก่

องค์ที่ 1 ย้อนร้อยประวัติศาสตร์ สยามนิรมิตจะนำพาคุณย้อนเวลากลับไปในอดีตราว 700 ปีก่อน เมื่อครั้งที่สยามยังคงกอปรไปด้วยผู้คนหลายเชื้อชาติ หลากศาสนา และมีประเพณีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ประจำถิ่น การแสดงในองค์นี้ประกอบไปด้วยฉากหลักทั้งหมด 4 ฉากดังต่อไปนี้

 ฉากที่ 1 ศรัทธาล้านนานคร : เปิดฉากการแสดงสยามนิรมิตด้วยขบวนแห่ของกษัตริย์และมหาเทวีแห่งอาณาจักรล้านนาซึ่งกำลังเสด็จพระราชดำเนินไปกราบนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์ ณ วัดเชียงมั่นในขบวนเสด็จฯ นี้จะประกอบไปด้วยขบวนเครื่องสูง (เครื่องสูง น. : ของสำหรับประดับเกียรติยศ เช่น ฉัตร , พัดโบก , จามร , กลด เป็นต้น) เหล่านางสนมกำนัลผู้เลอโฉม และทหารองครักษ์ที่แสดงการฟ้อนรำดาบไปตลอดเส้นทาง

ฉากที่ 2 การค้าขายโพ้นทะเล : สัมผัสกับบรรยากาศของท้องทะเลใต้ในวันก่อนเก่า เมื่อคราวที่การค้าขายระหว่างดินแดนอันห่างไกลยังคงต้องอาศัยเรือสำเภาเป็นยานพาหนะครั้นเมื่อการค้าขายเจริญก้าวหน้า อิทธิพลจากนานาชาติทั้งทางด้านความเชื่อ ศาสนา และศิลปะก็เข้ามาหลอมรวมกับประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิมของท้องถิ่นจนกลายเป็นลักษณะเฉพาะของชุมชนบนดินแดนด้ามขวานทอง

 ฉากที่ 3 อีสานตำนานปราสาทหิน : ใครๆ ต่างก็ทราบกันดีว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสยามเป็นพื้นที่ซึ่งมีปราสาทหินตั้งอยู่เป็นจำนวนมากที่สุด การแสดงสยามนิรมิตฉากนี้จะจำลองเหตุการณ์ให้คุณได้เห็นการฟ้อนรำอย่างสนุกสนานของชาวอีสานในงานเฉลิมฉลองรุ่งอรุณมหัศจรรย์ที่ดวงตะวันส่องแสงสว่างลอดช่องประตูของปราสาทหินพนมรุ้งพอดิบพอดี และด้วยมนต์ขลังอันลี้ลับก็ได้ทำให้รูปสลักศิลากลับกลายมามีชีวิตชีวาขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์

ฉากที่ 4 กรุงศรีอยุธยาราชธานีที่รุ่งโรจน์ : ย้อนกลับไปในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีแห่งสยาม มีคำกล่าวว่า ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ซึ่งคำกล่าวนี้สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของดินแดนเมื่อครั้งอดีตได้อย่างชัดเจน  ณ ช่วงเวลาอันน่าจดจำในคราก่อนนั้น คุณจะได้พบกับความรุ่งเรืองของเมืองหลวงซึ่งกำลังเจริญสัมพันธไมตรีกับชาติตะวันตก ได้เห็นความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของชาวนาและวิถีชีวิตอันหรูหราโอ่อ่าของชาววัง ได้ชมวิถีชีวิตริมน้ำของชุมชนในภาคกลาง รวมทั้งยังจะมีโอกาสได้ตะลึงงันไปกับพิธีแห่ขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคอันแสนงดงามที่สยามนิรมิตภูมิใจนำเสนอด้วย

องค์ที่ 2 ท่องสู่ดินแดนแห่งจินตนาการ ถึงแม้ว่าชาวสยามจะมีวิถีชีวิต – ประเพณีวัฒนธรรมที่แตกต่างหลากหลาย แต่สิ่งหนึ่งซึ่งชาวสยามจำนวนมากมีความเชื่อร่วมกันก็คือ เรื่องราวของกฎแห่งกรรมและการเวียนว่ายตายเกิด คนทำกรรมดีหรือกรรมชั่วในโลกนี้จะต้องได้รับผลของการกระทำต่อไปในภพภูมิข้างหน้า นี่คือการแสดงที่จะสื่อให้คุณเห็นถึงเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับ “ไตรภพ” ในแบบฉบับเฉพาะของสยามนิรมิต

การแสดงในองค์ที่ 2 ประกอบไปด้วยฉากหลักทั้งหมด 2 ฉาก ได้แก่

 ฉากที่ 1 นรกภูมิ : สถานที่ซึ่งคนบาปจะต้องไปรับทัณฑ์ทรมานจากกรรมชั่วของตนเองโดยมีพระยายมราช (ยมบาล) คอยดูแลควบคุมให้ทุกวิญญาณต้องถูกลงโทษอย่างสาสมกับความผิดที่ได้เคยก่อไว้ คนชอบโกหกจะถูกดึงลิ้น คนติดสุราจะถูกกรอกปากด้วยน้ำเดือด คนที่เป็นชู้กับสามีหรือภรรยาของผู้อื่นจะต้องปีนต้นงิ้วซึ่งมีหนามแหลมคมทิ่มแทงร่างกาย

 ฉากที่ 2 ป่าหิมพานต์ : ตื่นตาไปกับดินแดนลี้ลับซึ่งเชื่อมต่อระหว่างสวรรค์กับโลกมนุษย์ “ป่าหิมพานต์” ผืนป่าในเทพนิยายที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตประหลาดพิสดารนานาชนิด อาทิเช่น “กินรี” สิ่งมีชีวิตครึ่งนกครึ่งคน “มักกะลีผล” หรือ “นารีผล” ต้นไม้วิเศษที่ออกผลเป็นหญิงสาวผู้งดงาม นอกจากนั้นคุณยังจะได้เห็น “เมขลา” กับ “รามสูร” ซึ่งเป็นเหล่าทวยเทพที่คนไทยในสมัยโบราณเชื่อว่าเป็นผู้ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง และฟ้าผ่า บนเวทีของสยามนิรมิตด้วย

นอกเหนือไปจากการแสดงอันน่าประทับใจแล้ว สยามนิรมิตยังมีพื้นที่ท่องเที่ยวส่วนอื่นๆ ภายใน Park และมีกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ไว้คอยสร้างความเพลิดเพลินให้แก่เหล่าอาคันตุกะผู้มาเยือนอีกหลายอย่าง อาทิเช่น หมู่บ้านชนบทไทย 4 ภาค (เปิดให้บริการทั้ง สยามนิรมิต กรุงเทพฯ และ สยามนิรมิต ภูเก็ต) ซึ่งได้นำเอาบ้านไม้แบบเก่าจากภาคต่างๆ มาจัดแสดงไว้ใกล้กับพื้นที่โรงละคร ภายในหมู่บ้านแห่งนี้คุณจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนไทยในสมัยโบราณ ทั้งการสานปลาตะเพียนจากใบลานเพื่อทำเป็นของเล่นเด็ก การเลี้ยงไหม การสาวไหม และการทอผ้า การตำและการฝัดข้าว การทำขนมครก เป็นต้น , ตลาดน้ำภูเก็ต (เปิดให้บริการภายในพื้นที่ Park ของ สยามนิรมิต ภูเก็ต) ที่ซึ่งคุณจะได้เพลิดเพลินไปกับการล่องเรือชมบรรยากาศแบบไทยๆ ริมสายน้ำยามเย็น , ดนตรีไทยและการแสดงกลางแจ้ง (ให้บริการทั้ง สยามนิรมิต กรุงเทพฯ และ สยามนิรมิต ภูเก็ต) เป็นการสร้างความบันเทิงก่อนที่การแสดงสยามนิรมิตภายในโรงละครจะเริ่มต้นขึ้น , ให้อาหารและขี่ช้าง (ให้บริการทั้ง สยามนิรมิต กรุงเทพฯ และ สยามนิรมิต ภูเก็ต) สนุกกับการให้อาหารช้างซึ่งมีส่วนร่วมในการแสดงบนเวทีสยามนิรมิต และถ้าใครอยากสัมผัสความรู้สึกคล้ายกับท่านขุนในสมัยก่อนเก่าก็สามารถใช้บริการนั่งช้างขี่เที่ยวไปรอบๆ บริเวณ Park ได้

ใครที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารแบบอิ่มไม่อั้น สยามนิรมิตเขาก็มีบริการอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ไทย – นานาชาติภายในภัตตาคารที่สามารถมองเห็นบรรยากาศของหมู่บ้านชนบทไทย 4 ภาคได้อย่างสวยงาม ส่วนพี่น้องชาวมุสลิมซึ่งมีความจำเป็นจะต้องทำการละหมาดตามหลักศาสนาก็สามารถใช้บริการห้องละหมาดได้ทั้งที่ สยามนิรมิต กรุงเทพฯ และ สยามนิรมิต ภูเก็ต

     เวลาทำการของสยามนิรมิต ภูเก็ต : เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 17.30 – 22.30 น. (สยามนิรมิตภูเก็ต ปิดบริการทุกวันอังคาร) กิจกรรมต่างๆ ภายในหมู่บ้านชนบทไทย 4 ภาคและตลาดน้ำเริ่มตั้งแต่เวลา 17.30 – 20.30 น. รับประทานอาหารบุฟเฟ่ต์มื้อเย็นได้ตั้งแต่เวลา 18.00 – 20.30 น. การแสดงสยามนิรมิตเริ่มเวลา 20.30 น.ใช้เวลาในการแสดงประมาณ 80 นาที