การเตรียมตัวในการเดินทาง

การเที่ยวทะเลไทย นั้นสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นฝั่งอันดามัน หรือ อ่าวไทย ทะเลของประเทศไทยนั้นถือเป็นอีก 1 จุดหมายปลายทาง ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก. อีกทั้งประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปเอเชีย. ทำให้หลายๆคนอาจจะไม่ชอบแดดสักเท่าไร จึงทำให้ต้องทาครีมกันแดดที่มี SPF++ สูง และอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยให้ป้องกันแสงแดดได้ดีคือเสื้อผ้าที่ใส่ไปทะเล
ทางเราจึงรวบรวมสไตล์การแต่งตัวไปทะเล ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของส่วนบุคคล เช่น

  1. สไตล์การแต่งตัวแบบง่ายๆ โดยการจับกางเกงยันส์ที่สวยๆสักตัวเอาแบบที่เราชอบมามิกซ์กับเสื้อแฟชั่นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น เสื้อครอป เสื้อปาดไหล่ เสื้อเกาะอก เสื้อสายเดี่ยว เสื้อแขนพอง ฯลฯ *ควรเลือกเสื้อผ้าที่ไม่หนามาก
  2. สไตล์การแต่งตัวแบบสวยสุดชิค ด้วยการเลือกชุดเดรสหรือชุดเซ็ทสวยๆ
  3. รองเท้าที่ใส่สบาย และเดินได้สะดวกบนพื้นทราย
  4. หากใครที่กลัวแดด ก็อาจจะพกเสื้อแขนยาว หรือแจ็คเก็ตไปด้วย

ในการไปเที่ยวเกาะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทัวร์วันเดย์ หรือ นอนค้างคืน สิ่งสำคัญที่ต้องพกติดตัวไปด้วย คือ

  1. เตรียมยาประจำตัว : ยาประจำตัวถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งในการเดินทางท่องเที่ยว ห้ามคิดเด็ดขาดว่าเดี๋ยวไปหาซื้อเอาข้างหน้าก็ได้ ต้องเตรียมไว้ให้พร้อมก่อนเดินทาง และต้องเป็นสิ่งแรกๆที่ต้องเช็คก่อนออกเดินทางทุกครั้ง
  2. เตรียมเงินสดติดตัวไว้นิดหน่อย : โดยปรกติแล้วโปรแกรมทัวร์วันเดย์ทริปจะรวมค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้แล้วทั้งอาหาร ของว่าง น้ำดื่ม น้ำอัดลม ประกันอุบัติเหตุ อุปกรณ์ดำน้ำ ค่าธรรมเนียมอุทยาน รถรับส่ง(ในบางโปรแกรม) เป็นต้น แต่หากลูกค้าต้องการซื้อพวกของฝาก หรือให้ทิปพนักงานผู้ช่วยบนเรือ ก็ควรเตรียมเงินสดติดตัวไปนะค่ะ
  3. ผ้าขนหนู/ผ้าเช็ดตัว : โดยปรกติแล้วทัวร์ทุกโปรแกรมจะไม่มีรวมผ้าเช็ดตัวให้ ลูกค้าจะต้องเตรียมไปเอง
  4. อุปกรณ์ของใช้ส่วนตัวต่างๆ : เช่น หมวก แว่นตา ครีมกันแดด กระเป๋ากันน้ำ ชุดว่ายน้ำ
  5. เสื้อผ้าแห้งไว้เปลี่ยนตอนขากลับ ในกรณีที่ไม่อยากนั่งเรือแบบชื้นๆเข้าฝั่ง หรือจะเปลี่ยนตอนเดินทางถึงท่าเรือแล้ว

เมื่อลูกค้าได้ทำการจองทัวร์กับทางเราแล้ว และได้ชำระเงินครบจำนวนแล้ว ทางเราจะส่งใบจองทัวร์ เพื่อเป็นการยื่นยันการจอง โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องปริ้นใบจองทัวร์นี้ออกมา ทางเราขอแนะนำวิธีง่ายๆ และไม่ต้องกลัวว่าจะทำใบจองทัวร์หาย เช่น

  1. ดาวน์โหลดไฟล์ ใบจองทัวร์ที่ทางเราส่งให้ และลูกค้าสามารถโชว์ใบจองทัวร์จากโทรศัพท์มือถือได้ง่ายๆ
  2. เซฟ หรือเก็บเป็นรูปภาพ
  3. บอกชื่อ – นามสกุล ของลูกค้าที่ทำการจองไว้ และบอกตอนที่คนรถมารับจากที่พัก และตอนเช็คอินที่ท่าเรือ

ความแตกต่างระหว่างจอยทัวร์ และไพรเวททัวร์

โปรแกรมแบบจอยทัวร์ (Join Tour) คือ บางครั้งอาจเรียกว่า จอยกรุ๊ป ซึ่งหมายถึง การเดินทางท่องเที่ยวร่วมกับผู้อื่น โดยทางบริษัทเรือ เป็นผู้ทำและกำหนดโปรแกรมทัวร์ กำหนดเวลาและวันออกเรือ และราคามาไว้เรียบร้อยแล้ว จากนั้นจึงให้ Agency เป็นผู้ขายโปรแกรมนั้นๆ และที่สำคัญโปรแกรมจอยทัวร์มีราคาที่ถูกกว่ามาก

ตัวอย่างเช่น โปรแกรมท่องเที่ยวทัวร์วันเดย์เกาะเฮ โดยเรือสปีดโบ๊ท ราคาเริ่มต้น 499 บาท (เรือขนาด 2 เครื่องยนต์สามารถบรรจุผู้โดยสารได้ทั้งหมด 20 ที่นั่ง)

  • ครอบครัว A จอง 2 ท่าน
  • แก๊งเพื่อน B จอง 10 ท่าน
  • คนอื่นๆจองมา จนครบ 20 ที่นั่ง เรือก็จะออกตามโปรแกรมที่ขายไว้

โดยกลุ่มคนเหล่านี้จะมาจอยกรุ๊ปกัน เพื่อท่องเที่ยวตามโปรแกรมดังกล่าว และออกในนามบริษัทกลาง (ผู้เดินทางอาจมาจากหลาย Agency)
**ทั้งนี้ต้องดูรายละเอียดโปรแกรมว่า รวมอะไรบ้าง และไม่รวมอะไรบ้าง เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการต่อผู้เดินทางให้มากที่สุด**

ข้อดี : ราคาย่อมเยา และ เป็นราคาที่ลูกค้าสามารถจับต้องได้ และสามารถเลือกในราคาที่เราจัดงบประมาณไว้ได้ มีทั้งแบบราคาถูก จนถึงราคาสูง เที่ยวแบบไม่ต้องนั่งรอให้กรุ๊ปครบ ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ ต่างอาชีพต่างสาขา
ข้อเสีย : คุณภาพทัวร์ ระดับกลางหรือระดับถูก หรือ เป็นไปตามข้องกำหนดของบริษัทที่วางไว้ โปรแกรมยืดหยุ่นน้อย ต้องทำตามเวลาที่โปรแกรมทัวร์นั้นจัดไว้แล้ว และจำนวนคนในกรุ๊ปเยอะ ไม่เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความส่วนตัวสูง

การจัดโปรแกรมแบบไพรเวท หรือ เช่าเหมาลำเรือ ไม่ว่าจะเป็น เรือหางยาว เรือสปีดโบ๊ท เรือคาตามารัน เรือยอร์ช เรือใหญ่ เป็นต้น หากเดินทางท่องเที่ยวแบบเป็นกรุ๊ปใหญ่ หรือมีจำนวนคนเยอะ แนะนำให้ จัดกรุ๊ปส่วนตัว หรือกรุ๊ปเหมา (Incentive Group / Private Group) คือ การท่องเที่ยวตามความประสงค์ของลูกค้า เป็นการเดินทางท่องเที่ยวแบบหมู่คณะ อาจจะเป็นในรูปแบบการท่องเที่ยวของ องค์กร, หน่วยงาน, บริษัท, ครอบครัว หรือ เพื่อนฝูง โดยไม่มีคนนอกเข้ามาร่วมในการเดินทางด้วย โดยลูกค้าสามารถแจ้งเส้นทางที่อยากไป กำหนดวัน และเวลาเดินทางเองได้ หรือแม้กระทั่ง รีเควส ในเรื่อง คุณภาพอาหาร ตลอดจน สถานที่ท่องเที่ยวตามความต้องการของลูกค้าได้เลยค่ะ (อาจเป็นการท่องเที่ยวและสอดแทรกกิจกรรมที่ดูงานให้สอดคล้องกับองค์กรก็ได้)

แต่ทั้งหมดนี้ก็อาจมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงกว่าแบบจอยทัวร์ แต่คุณภาพทัวร์สามารถควบคุมได้ ตามงบประมาณและความต้องการของลูกค้า

ข้อดี : การได้เที่ยวตามวัตถุประสงค์ และตรงตามความต้องการของลูกค้า และ ความยืดหยุ่นในการออกแบบโปรแกรมให้เข้ากับ งบประมาณ ของกรุ๊ป
ข้อเสีย : อาจจะใช้ระยะเวลาในการเจรจาพูดคุยในเรื่องของการวางแผนเดินทางพอสมควร เพื่อให้ออกมาตรงตามความต้องการของลูกค้า และ ราคาอาจจะไม่ตายตัวเพราะมีเรื่องของจำนวนคนเป็นตัวแปลหลักของการทำราคา

ต้องจองทัวร์ล่วงหน้าไหม

หลายๆคนอาจคิดว่าการจองตั๋ว หรือทัวร์ล่วงหน้านั้นไม่มีความจำเป็น ไปหาซื้อที่หน้างานดีกว่า แต่ก็เสี่ยงกับการไม่มีรถเดินทาง ที่นั่งเต็ม หรือทัวร์เต็ม ในทางกลับกันนั้นการจองล่วงหน้ามีความจำเป็นมาก เพราะสามารถทำให้เราวางแผนการเที่ยวได้อย่างสบาย เป็นการจองที่นั่ง หรือทัวร์ล่วงหน้าที่เราจะได้ไปแน่นอน

แต่ทว่าการวางแผนล่วงหน้าจะช่วยให้ ประหยัดเวลาประหยัดเงินและ ช่วยลดความ หงุดหงิด อารมณ์เสียได้ นอกจากนั้น ยังอาจช่วย ป้องกัน เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ได้อีกด้วย เช่น การที่ต้องนอนค้าง ในรถ เนื่องจาก หาที่พักไม่ได้ แทนที่ จะเที่ยว ได้สนุก กลับเป็น การทรมาน ร่างกาย พักผ่อนได้ ไม่เพียงพอ เวลา ถ่ายรูป ออกมา ก็ไม่สวยสมใจนึก เพราะ เหนื่อย และโทรมกันสุด…สุด

แล้วต้องจองทัวร์ล่วงหน้ากี่วัน?

  • หากเป็นวันธรรมดา หรือช่วงโลว์ ซีซั่น อาจจะจองล่วงหน้าสัก 7-14 วัน
  • หากเป็นวันหยุดยาว และ ช่วงเทศกาล หรือช่วงไฮ ซีซั่น แนะนำควรรีบจองล่วงหน้าอย่างน้อยสัก 2-3 เดือน

โดยปรกติแล้ว โปรแกรมทัวร์ต่างๆจะรวมทุกอย่างไว้ให้แล้ว เช่น รถรับส่งจากที่พัก, อาหาร, น้ำดื่ม, ขนมอาหารว่าง, อุปกรณ์การดำน้ำตื้น เป็นต้น แต่บางทัวร์โปรแกรมก็อาจจะไม่มีที่ยกตัวอย่างไว้ข้างต้น ทั้งนี้ลูกค้าควรศึกษารายละเอียดโปรแกรมทัวร์ให้ครบถ้วนก่อนทำการจอง และไม่รวมพวกค่าธรรมเนียมของต่างชาติ. แต่หากเป็นการใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากในรายละเอียดของโปรแกรมที่ระบุไว้ แล้วลูกค้าต้องการซื้อของฝาก หรือของใช้จ่ายส่วนตัว ควญนำเงินติดตัวไว้ด้วยนะค่ะ

นโยบายการคืนเงิน และการยกเลิก

ก่อนที่นักเดินทางหรือนักท่องเที่ยวทุกท่านจะจองทัวร์ จำเป็นต้องรู้ถึงข้อตกลงของบริษัทนั้นๆว่าการขอยกเลิกทัวร์ การเลื่อนการเดินทาง และนโยบายการคืนเงินนั้นเป็นอย่างไร โดยที่บริษัท ภูเก็ต ดรีม จำกัด ได้ตั้งข้อกำหนดไว้ดังนี้

แบบโปรแกรมวันเดย์ทัวร์ *ยกเลิกโดยลูกค้าเอง

  1. ยกเลิกการเดินทาง ณ วันที่เดินทาง *ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงิน (เก็บค่าธรรมเนียมการยกเลิก 100%)
  2. ยกเลิกการเดินทางตั้งแต่ 2 วัน (24 ชั่วโมง) ก่อนเดินทาง *คืนเงินเต็มจำนวน (ตามเวลาทำการของบริษัท)
  3. หากท่านได้ชำระค่ามัดจำทัวร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เกิดเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ท่านไม่สามารถเดินทางได้ ลูกค้าสามารถเลื่อนวันที่เดินทางได้ หรือยื่นยันทำการขอคืนเงิน (ลูกค้าจะต้องรีบแจ้งกับทางเราโดยเร็วที่สุด)
  4. การยกเลิกจะยกเลิกได้เมื่อได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ภูเก็ต ดรีมเท่านั้น  และจะทําการคืนเงินหลังจากยืนยันการยกเลิกแล้วภายใน  7  วัน

แบบโปรแกรมวันเดย์ทัวร์ *ยกเลิกโดยทางเรือ

  1. หาก ณ วันที่เดินทาง เกิดพายุ คลื่นสูง และทำให้เรือไม่สามารถออกได้ หรือจากการประกาศระงับการเดินทางจากเจ้าท่า *ลูกค้าสามารถเลื่อนวันเดินทางได้ หรือยื่นยันทำการขอคืนเงิน (ลูกค้าจะต้องรีบแจ้งกับทางเราโดยเร็วที่สุด)

แบบแพคเก็จทัวร์ รวมที่พัก

บริษัท ภูเก็ต ดรีม ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เนื่องจากรายการทัวร์นี้เป็นแบบเหมาจ่ายเบ็ดเสร็จ หากท่านสละสิทธิ์การใช้บริการใดๆ ตามรายการ ทางภูเก็ต ดรีม ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณี ทางภูเก็ต ดรีมมีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงหรือสับเปลี่ยนรายการได้ตามความเหมาะสม การไม่รับประทานอาหารบางมื้อ ไม่เที่ยวตามรายการ ไม่สามารถขอหักค่าบริการได้ เพราะการชําระค่าทัวร์เป็นไปในลักษณะเหมาจ่าย

การยกเลิกห้องพัก/โรงแรม

  1. ผู้จองจะต้องแจ้งความประสงค์ยกเลิกการเดินทางก่อนกำหนดเดินทางอย่างน้อย  45  วัน  และคิดค่าธรรมเนียมในการยกเลิก 10% ของยอดมัดจำทั้งหมด
  2. กรณี แจ้งความประสงค์ยกเลิกการเดินทางก่อนกำหนดเดินทางน้อยกว่า 45 วัน และคิดค่าธรรมเนียมในการยกเลิก เป็นค่าห้องพัก 1 คืน
  3. ผู้ประสงค์จะยกเลิกการบริการต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น

มีฝนตก เรือออกเดินทางได้ไหม

สภาพอากาศในแต่ละวันนั้นอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และในแต่ละจังหวัดอาจจะมีสภาพอากาศที่ไม่เหมือนกัน โดยลูกค้าสามารถสอบถามกับทางเราได้โดยตรง หรือเช็ดสภาพอากาศทางแอพ หรือเว็บไซต์ของกรมอุตุ

หากมีประกาศจากกรมเจ้าท่างดออกเรือ หรือประกาศจากบริษัทเรือ เรื่องสภาพอากาศที่มีพายุ ลมกระโชกแรง คลื่นสูง หรือสภาพอากาศที่ไม่ปลอดภัยไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามการเดินทางจะถูกเปลี่ยนแปลงหรือเลื่อนออกไป โดยที่ลูกค้าทุกท่านสามารถขอเลื่อนวันเดินทางได้ หรือหากลูกค้าไม่ต้องการเดินทางแล้วสามารถแจ้งขอเงินคืนได้ โดยทางบริษัท ภูเก็ต ดรีม จำกัด จะทำการโอนเงินคืนให้ลูกค้าภายในระยะเวลา 1-2 วันทำการ
*แต่หาก ณ วันที่เดินทาง มีฝนเล็กน้อย แต่ไม่เป็นอันตรายต่อการออกเรือ ทางบริษัทเรือยังสามารถออกเรือเที่ยวได้ตามปรกติ ทางลูกค้าไม่สามารถยกเลิกทัวร์ได้ (แต่หากลูกค้าต้องการยกเลิกทัวร์ ทางเราไม่สามารถคืนเงินให้ได้ 100%)