แนะนำร้าน ฟาร์ม ผลิต และขายไข่มุกแท้ ภูเก็ต ภูเก็ต เพิร์ล ฟาร์ม เพาะเลี้ยง และผลิตไข่มุกแท้ จังหวัดภูเก็ต เพิร์ล ฟาร์ม ผู้ผลิตรายแรกในประเทศไทย. เราจะพาทุกท่านข้ามน้ำข้ามทะเลพาไปศึกษาเรียนรู้วิธีการทำฟาร์มเพาะเลี้ยงไข่มุกแท้ที่ จ.ภูเก็ต อีกทั้งไข่มุกยังเป็นอัญมณีเพียงชิ้นเดี่ยวที่มีคุณค่าบ่งบอกถึงรสนิยมของผู้สวนใส ทำให้ดูสวยสง่างามอีกด้วย ประวัติความเป็นมา ด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปี นับแต่อดีตจากรุ่นสู่รุ่นที่สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นจากบรรพบุรุษคนภูเก็ตโดยการทำฟาร์มเพาะเลี้ยงไข่มุกจนถึงปัจจุบัน ไข่มุกเป็นอัญมณีเพียงชิ้นเดียวที่มีคุณค่าบ่งบอกถึงรสนิยมของผู้สวมใส่ที่ผู้ครอบครอง เท่านั้น ที่จะประเมินค่าได้และยังเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นเดียวในโลกของอัญมณีที่เกิดจากสัตว์น้ำ ปี 2510 – อาก๋งเป็นรุ่นเริ่มต้น ที่ริเริ่มการทำฟาร์มมุกในจังหวัดภูเก็ต ปี 2528 – รุ่นคุณพ่อมีการรวบรวมพันธุ์หอยจากจังหวัดอื่นเนื่องจากหอยมุกจากธรรมชาติในจังหวัดภูเก็ตลดลง แต่ก็ยังพบปัญหาเกี่ยวกับการตายของหอยมุกจึงต้องชะลอการทำฟาร์มไประยะหนึ่ง ปี 2533 – รุ่นลูก ภายใต้การนำของ คุณอมร อินทรเจริญ ได้ฟื้นฟูฟาร์มเพาะเลี้ยงไข่มุกจนสำเร็จ จากเดิมขายเป็นวัตถุดิบเพียงอย่างเดียว ได้ขยายมาเป็นการแปรรูปผลิตภัณฑ์ เริ่มต้นพัฒนาฟาร์มเพาะเลี้ยงไข่มุก จากอุตสาหกรรมในครัวเรือน มาเป็นอุตสาหกรรมแบบครบวงจร โดยทำการศึกษาและวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยของรัฐ ปี 2535 – ศึกษา-วิจัยการเลี้ยงมุกกลม และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เป็นปีแรก ปี 2536 – เปลี่ยนแปลงจากอุตสาหกรรมครัวเรือน เป็นรูปแบบบริษัทในนามของ “บริษัท ภูเก็ต เพิร์ล อินดัสทรี จำกัด” เพื่อนำไปสู่การประกอบธุรกิจอัญมณีไข่มุกอย่างเต็มรูปแบบ ปี 2544 – ประกอบการแบบครบวงจร ทั้งการทำฟาร์มเลี้ยงมุก โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงโชว์รูมแสดงสินค้า ปี 2546 – ประสบผลสำเร็จในการทดลองผลิตมุกเกือบกลม (Rather Round Pearl) R.R.P. และยื่นจดความลับทางการค้ากับกรมทรัพย์สินทางปัญญา จัดตั้ง บริษัท ภูเก็ต ไข่มุก จำกัด เพื่อแบ่งสายงานบริการด้านการขายออกจาก บริษัท ภูเก็ต เพิร์ล อินดัสทรี จำกัด โดยมี บริษัท ภูเก็ต เพิร์ล อินดัสทรี จำกัด ดูแลด้านการจัดการฟาร์ม

การดำน้ำตื้น หรือ สน็อกเกิ้ล เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางในหมูนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบการทัวร์หมู่เกาะต่างๆ และยังเหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกวัย โอกาศดีที่ท่านจะได้ชมปะการังหลากหลายชนิดใต้ท้องทะเลอันดามัน สัมผัสปลาสวยงาม โดยสถานที่ดำน้ำนั้นมากมายรายรอบเกาะภูเก็ต แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหาดทั้งหมดบนเกาะนั้น จะมีน้ำทะเลใสสะอาดและมีสิ่งมีชีวิตรที่อยู่อาศัยทางทะเลที่น่าอัศจรรย์เหมือนกันซะทั้งหมด นี้จึงเป็นเหตุผลที่เราได้รวบรวมรายชื่อของ 5 หาดที่ดีที่สุดสำหรับการดำน้ำตื้นในจังหวัดภูเก็ตมาฝากกัน มีบางสถานที่ที่สามารถดำน้ำและมองเห็นวิวดอกไม้ทะเล ปลานกแก้ว และปะการังหลากหลายชนิดพร้อมกับแสงแดดที่สาดส่องลงมาในน้ำ ทำให้ยิ่งดูสวยงามและหน้าอัศจรรย์ใจเป็นปย่างมาก 1 อ่าวเสน ภูเก็ต (Ao Sane) อ่าวเสน เป็นอ่าวเล็กๆมีความยาว 200 เมตร ติดกับหาดในหานขึ้นไปทางขวา โดยทางไปต้องผ่านโรงแรมภูเก็ตยอช์ทคลับ อ่าวเสนนับเป็นจุดสิ้นสุดของสายถนน บริเวณหาด เป็นชายหาดที่ค่อนข้างเล็ก ชายหาดเรียงรายไปด้วยโขดหินน้อยใหญ่ หาดทรายไม่ขาวมาก ดำน้ำตื้น (Snorkeling)ท่องโลกใต้ทะเลบริเวณนี้จะพบเห็นปลานกแก้ว ปลากาตูนร่์ และอาจจะมีปลาไหลทะเลให้ได้พอเห็นกันอยู่บ้าง ในบริเวณหาดจะมีเพียงร้านอาหาร และบังกะโลเล็กๆ ให้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสงบเรียบง่าย และต้องการความเป็นส่วนตัว 2 กะตะน้อย (Kata Noi) หาดกะตะน้อยตั้งอยู่ไกลจากหาดอื่นๆ อันเป็นเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวของภูเก็ต โดยอยู่ถัดจากหาดกะตะไปประมาณ 800 เมตร ถึงหาดกะตะน้อยจะมีความยาวไม่มากนัก แต่ก็นับได้ว่าเป็นหาดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของภูเก็ต และมีบรรยากาศเงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน เพราะตั้งอยู่สุดถนน หาดนี้เหมาะกับผู้ที่เดินทางกับครอบครัวเป็นพิเศษเพราะไม่มีไนท์คลับและบาร์ และเป็นหาดที่สามารถเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย น้ำทะเลที่หาดกะตะน้อยยังคงใสสะอาดและเรียบสงบเกือบตลอดทั้งปี ริมหาดมีร้านเจ็ทสกีและกระดานโต้คลื่นให้เช่า หากเดินทางไปในเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ก็เป็นช่วงที่เหมาะแก่การสน็อกเกิลท่องโลกใต้ทะเล หลังจากเล่นน้ำแล้วก็สามารถคลายความเมื่อยล้าโดยการไปนอนนวดริมหาด หรือเช่าเก้าอี้ชายหาดมานอนอาบแดดและอ่านหนังสือเล่น 3 หาดพาราไดซ์ (Paradise Beach) เราจะต้องเดินทางจากถนนบริเวณหน้าหาดป่าตองไปทางทิศใต้ เรื่อยไปจนสุดหาดจะเจอวงเวียน ขับตรงขึ้นไปบริเวณหน้าโรงแรมอมารี คอรัล บีช ภูเก็ต จากนั้นก็เลี้ยวขึ้นไปทางซ้ายก็จะเป็นถนนที่นำเราไปสู่หาดพาราไดส์ หาดพาราไดซ์เป็นชายหาดเล็กๆที่อยู่ถัดจากหาดไตรตรังค์ประมาณ 5 นาที ทางไปจะเป็นทางซีเมนต์เล็กๆ ลัดเลาะป่าธรรมชาติที่มิอาจคิดว่าจะมีชายหาด อยู่ในบริเวณนี้ ชายหาดมีเม็ดทรายขาวและละเอียดพอสมควร มีโขดหินเรียงรายอยู่ด้านข้างของชายหาดทั้งสองข้าง ตรงบริเวณหาดมีร้านอาหาร ไว้คอยบริการนักท่องเทียวอยู่เพียงหนึ่งร้าน และมีเตียงชายหาดไว้ค่อยบริการนักท่องเที่ยวเช่นกัน 4 หาดยะนุ้ย หาดยะนุ้ย เป็นหาดเล็กๆ มีแหลมที่ยื่นออกไปในอ่าวในหาน อยู่ทางทิศเหนือของแหลมพรมเทพเพียงประมาณ 10 นาที ที่หาดยะนุ้ยมีปะการังสมองอยู่รอบๆบริเวณ เหมาะแกการดำน้ำตื้น (Snorkeling)และเกาะที่มองเห็นอยู่ไม่ไกลนั่นคือเกาะโหลน ถึงแม้จะดูแล้วอยู่ไม่ห่างมาก แต่ระหว่างตัวหาดยะนุ้ยกับเกาะโหลนมีร่องน้ำที่ค่อนข้างลึกทำให้น้ำบริเวณนั้นไม่ได้แห้งจนสามารถเดินไปได้ หากเราต้องการไปเที่ยวที่เกาะโหลน เราสามารถเช่าเรือแคนูพายไปเที่ยวได้

สวัสดีจ้าทุกคนวันนี้เราจะมาพูดถึงหาดในยางกันนะค่ะ หาดในยางนั้นเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตที่หนึ่งทีมีความเป็นที่นิยมกันมากสำหรับผู้คนในละแวกนั้นเพราะที่หาดในยางนั้นมีความสวยสดงามอยู่พอๆกับหาดอื่นๆที่มีอยู่ในจังหวัดภูเก็ตเช่นกันหาดในยาง อยู่ฝั่งตะวันตกค่อนไปทางเหนือของเกาะ เป็นที่ตั้งที่ทำการของอุทยานแห่งชาติสิริกิต ชายหาดของหาดในยางนั้นมีความกว้างและยาวมาก มีสวนสนที่มีความร่มรื่นให้เงา เหมาะแก่การพักผ่อนและเล่นน้ำ หาดแห่งนี้เป็นหาดที่มีความบรรยากาศที่มีความสงบเงียบ จึงทำให้เป็นสถานที่ที่มีความนิยมมากในการพักผ่อนหย่อนใจสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวภูเก็ตมีบ้านพักทองอุทยานแห่งชาติสิริกิตและเต้นสนามไว้คอยให้บริการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในราคาย่อมเยาไม่แพงมากเกินไป. การเดินทางไปที่หาดในหานนั้นไม่ยากเลยเพราะว่าเพียงแค่เราขับรถออกมาจากสนามบินไปทางตอนใต้แค่เพียง 5นาทีเราก็สามารถถึงหาดในยางได้ทันที การที่เราไปหาดในยางนั้นจะทำให้เราค้นพบสิ่งต่างๆมากมาย ที่หาดในยางมีต้นไม้ที่ปกปิดพื้นที่ให้ร่มเงาเหมาะกับการปิคนิคสำหรับชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้นและเป็นจุดที่ซื้อของฝากและของกินแถวนั้น พูดถึงการพักผ่อน ผู้สนส่วนใหญ่ที่มาพักผ่อนที่นี่จะได้พบกับการพักผ่อนที่แท้จริง เพราะมันสงบมากส่วนหนึ่งของหาดนั้นก็ตั้งอยู่ข้างในอุทยานแห่งชาติสิริกิตรวมไปถึงแนวประการังตอนเหนือจนถึงจุดจบของชายหาด

หากพูดถึงหาดยะนุ้ยแล้วนั้นเป็นหาดที่น่าสนใจที่หนึ่งในจังหวัดภูเก็ตที่เหมาะสมกับการมาพักผ่อนหย่อนใจไม่ว่าจะมาเป็นครอบครัวหรือมาคนเดียวที่นั้นท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่สดชื่นของต้นสนและกลิ่นหญ้าจากเนินเขาพร้อมรับแสงแดดอ่อนๆในเวลายามเช้าที่สัมผัสแล้วอุ่นผิวของเรา ที่หาดยะนุ้ยนั้นตั้งอยู่ภายใต้ร่มเงาของจุดชมวิวที่มีความน่ารักและมีชื่อเสียงมากที่สุดสองแห่งในจังหวัดภูเก็ต นั่นก็คือ จุดชมวิวแหลมพรมเทพ และจุดชมวิวกังหันลมยักษ์สีขาวหรือใบพัดที่ใช้กำเนิดไฟฟ้า ที่หาดยะนุ้ยนั้นดูเหมือนจะเป็นอ่าวเล็กๆน้อยๆ ที่มีเสน่ห์ ที่เหมาะสมกับผู้คนชื่นชอบการดำน้ำ การพายเรือคายัค และการดำน้ำดูปะการังและเหล่าบรรดาผู้ที่ชื่นชอบการตกปลาเช่นกัน ที่หาดยะนุ้ยนั้นมีหาดทรายที่มีความนุ่มต่อเราและสวยงามมากและที่หาดยะนุ้ยนั้นยังเป็นที่นิยมสำหรับเด็กๆเล็กๆ ที่ชื่นชอบการสะสมเปลือกหอยด้วยเช่นกัน ที่เกาะแห่งนี้เขาเรียกกันว่าเกาะยาวน้อย ที่เยาะยาวน้อยนั้นมีความกว้างออกไปโดยรวมแล้วประมาณ 700 เมตร ในท้องทะเลและในช่วงทีสภาพอากาศที่มีความสงบไม่มีพายุหรือมรสุม ก็จะมีเรือยอร์ชมาจอดกันมากมายกลายเป็นทุ่งเรือยอร์ช ซึ่งส่วนใหญ่ที่มาก็มาเพื่อจะพายเรือออกไปสำรวจประการังในท้องทะเลหรือบ้างไม่ก็ออกไปทำความรู้จักไปเยี่ยมเพื่อนบ้าน(สถานที่ใกล้เคียง)ที่ในหาดในหาน ในช่วงที่สภาพอากาศย่ำแย่ชาวประมงพื้นบ้านจะปีนขึ้นไปบนเขาที่ยอดแหล่มเพื่อทอดตะคายออกไปในทะเล

ชายหาดป่าตองเป็นสถานที่ที่มีรีสอร์ทและโรงแรมที่มีชื่อเสียงมากหลายที่ในจังหวัดภูเก็ต. ซึ่งที่หาดป่าตองนั้นก็เต็มไปด้วยความหลากหลายทางด้านกิจกรรมต่างๆไม่ว่าเป็นในเวลาตอนกลางวันหรือในเวลาตอนกลางคืนเช่น “การนอนอาบแดดหน้าหาดในเวลาตอนกลางวัน”. ป่าตองนั้นเป็นสถานที่ที่เหมาะสมกับการจัดปาร์ตี้และการละเล่นที่สนุกสนานรื่นรมย์. ในตอนกลางคืนนั้นทั้งเมืองป่าตองจะเบียดเสียดไปด้วยผู้คนที่ออกมาใช้ชีวิตในช่วงค่ำคืนออกมาทำงานมากินมาเที่ยว ซึ่งรวมไปถึงร้านอาหาร ร้านดื่มเบียร์ และสถานบันเทิงต่างๆอีกนับหลายร้อยแห่งในเมืองป่าตอง.ศูนย์กลางของการใช้วีชิตเที่ยวเล่นดื่มในช่วงค่ำคืนก็คือ ซอยบางลานั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีสถานที่เงียบๆเหมาะกับการนั่งเล่นชมวิวสบายๆบางส่วนในตัวเมืองนี้ด้วยเช่นกัน. ผู้ที่มาเยี่ยมเยียนหรือนักท่องเที่ยว มีความคาดหวังว่าจะสามารถค้นหาหรือมองเห็นสิ่งแปลกๆใหม่ๆทีหาไม่เจอในภาคตะวันออกหรือจากสถานที่ที่พวกเขาจากมา ถึงแม้ว่าในตัวเมืองนั้นจะมีอากาศที่ร้อนจัดมากไม่ว่าจะเป็นบนพื้นถนน แสงนีออน และความแปรปรวนของสภาพอากาศของจังหวัดภูเก็ตนั้นสามารถที่จะครอบงำคนที่มาใหม่ได้ แต่กุญแจที่สำคัญต่อการเติมเต็มความสนุกสนานของสถานที่แห่งนี้ก็คือการใช้ชีวิตของคุณแบบไปที่ละจุด ไปเรื่อยๆแบบไม่เร่งรีบ มีเรียนรู้การดื่มน้ำให้มากๆ และ เรียนรู้ความหมายของคำว่า “ไม่เป็นไร” ซึ่งแปลได้หยาบๆว่า “It doesn’t matter” or Don’t waorry, be happy ก็คือบอกกับตัวเราเองว่าไม่เป็นไรหรอกนะไม่ต้องกังวลอะไรหรอก จงมีความสุขมากๆเข้าไว้นั่นเอง.

ด้วยความสวยงามทางด้านธรรมชาติและความงดงามยิ่งของชายหาดสุรินทร์ จึงทำให้ชายหาดสุรินทร์เป็นที่รู้จักกันดีในนามของย่านคนร่ำรวยหรือเหล่าบรรดาเศรษฐีจากต่างเมืองไม่ว่าจะเป็น เศรษฐีจาก ทวีปยุโรป ทวีปอเมริกาและแถทบเอเชียเดินทางเข้ามาพักผ่อนที่บริเวณหาดแห่งนี้ ด้วยสาเหตุที่ทำให้ชายหาดสุรินทร์นั้นมีชื่อเสียงมากก็เนื่องมาจากการที่หาดสุรินทร์นั้นมีที่ตั้งอยู่ท่ามกลางเหล่าบรรดาโรงแรมและรีสอร์ทหรูหราหลายแห่งด้วยกันที่สร้างอยู่ ณ  หาดสุรินทร์ นั้นเอง ซึ่งก็คือ โรงแรมอมันพูรี โรงแรมทวินปาล์ม และ ก็ โรงแรมเดอะท์สุรินทร์ ที่โรงแรมเหล่านี้ตั้งอยู่นั้นมีราคาประมาน 1ล้านดอลลาร์ได้รวมไปถึงบ้านที่อยุ่วะแวกนั้นก็เช่นกันและที่ตั้งที่พวกบรรดาโรงแรมและบ้านตั้งอยู่นั้นพื้นที่มีครอบคลุมอยู่ที่จุดที่สูงที่สุดบนเขาที่สามารถทำให้พวกเขาสามารถที่จะมองลงมาเห็นวิว,ทิวทัศน์ที่ทะเลอันดามันได้ ถึงแม้ว่าหาดสุรินทร์นั้นจะมีชื่อเสียงเลืองลือมากในเรื่องการท่องเที่ยวก็ตามแต่ แต่ว่าที่หาดสุรินทร์นั้นก็ยังไม่ใช่ย่านเมืองพักผ่อนอยู่สักเท่าไหร่นักไม่เหมือนกันกับหมู่บ้านที่อยู่ติดกับแถทบชายฝั่งทะเลมากสักเท่าไร ด้วยความที่หาดสุรินทร์นั้นมีหาดชายที่มีสีขาวบริสุทธิ์และมีน้ำทะเลที่มีสีเขียวขุ่นๆจึงทำให้เป็นที่มั่นใจได้ว่าทำไมการถ่ายรูปที่ชายหาดสุรินทร์จึงเป็นที่นิยมกันมากสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและก็นักท่องเที่ยวชาวไทยด้วยกันโดยพื้นที่ทั้งหมดนั้นเป็นพื้นที่ที่อยู่พ้นน้ำหรือพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำซึ่งคือบ้านและโรงแรมและในทางกลับกันนั้นก็มีโอกาสที่สูงที่จะสร้างร้านอาหารและบาร์ไวน์ด้วยเช่นกัน

ที่ชายหาดในหานนั้นเป็นสถานที่ที่มีความนิยมมากอีกแห่งหนึ่งของเกาะภูเก็ตที่ผู้คนมักจะเดินทางไปพักผ่อนไปเดินเล่นไปว่ายน้ำหรือไปถ่ายรูปซึ่งเป็นที่สถานที่ที่รู้จักกันที่จักกันดีของชาวบ้านแถวนี้. ที่หาดในหานแห่งนี้ค่อนข้างที่จะมีความเงียบสงบอยู่พอสมควรเหมาะกับคนที่ชอบความสงบเพาะว่าที่หาดในหานนั้นมีโรงแรมตั้งอยู่เพียงแค่ไม่กี่แห่งเท่านั้นที่มีอยู่ดังๆก็มี โรงแรม รอยัล ภูเก็ต ยอร์ช คลับ ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีความนิยมมากสำหรับคนที่มีเรือแล้วเข้ามาจอดพักเรือที่โรงแรมแห่งนี้ได้ในช่วงหน้าไฮ ที่หาดในนั้นเหมาะที่จะเล่นน้ำได้แค่เพียงในช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปจนถึงเดือนเมษา จะมีดูแลป้องกันเหตุแต่ในช่วงหน้าโลว์เท่านั้น ก็คือ (เดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนตุลาคม) เนื่องด้วยว่าในช่วงเวลานั้นจะมีคลื่นใต้น้ำที่แรงมากจึงเป็นช่วงที่มีการดูแลป้องกันเหตุเป็นพิเศษ จึงทำให้ไม่เหมาะที่จะเล่นน้ำไม่ช่วงนั้นมากสักเท่าไหร่มัก และทำให้ร้านค้าที่อยู่บริเวณนั้นกลายมาเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนที่เราไม่ต้องโดนแดดเผาแทนไปโดยปริยาย ถัดไปในทางตอนใต้คือยะนุ้ยเป็นอ่าวที่มีหาดทรายที่มีความดึงดูดนักท่องเที่ยวน้ำตื้นและนักดำน้ำและจุดอื่นๆที่อยู่ละแวกใกล้เคียงเป็นหาดเล็กๆของอ่าวเสนซึ่งก็เป็นจุดที่เหมาะสมกับการดำน้ำเช่นกันการที่จะเข้าไปถึงยังสถานที่ ที่ ณ แห่งนั้นก็ไม่ยากสักเท่าไหร่สามารถเข้าได้ถึงได้โดยการขับมาจากถนนที่เริ่มต้นจอดที่โรงแรมรอยัลภูเก็จยอร์ชคลับนั้นเอง

หาดไม้ขาวเป็นหาดหนึ่งที่มีความสวยอย่างแปลกตามากสถานที่หนึ่งที่ตั้งของมันนั้นอยู่บริเวณทางชายฝั่งตะวันตกเหนือของจังหวัดภูเก็ตโดยที่ตลอดระยะทาง 11 กิโลเมตรของหาดไม้ขาวยังไม่มีการพัฒนาอะไรเลยสักอย่างหนึ่งในฐานะที่ชายหาดเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติสิริกิตย์นั้นเองจึงยากก็การพัฒนาพื้นที่ มันมีสถานที่ที่สำคัญที่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อนรองรับนักเที่ยวเที่ยวเพียงแค่สองแห่งเองได้ก็คือ ที่ แรก รีสอร์ท ภูเก็ต เจดับเบิ้ลยู มาริออตต์ และก็สนามบินนานาชาติจังหวัดภูเก็ตซึ่งอยู่ใกล้ๆกับชายหาดในยางนั่นเอง. พื้นทรายของหาดไม้ขาวนั้นภูแปลแบบหยาบๆในภาษาอังกฤษอย่างหยาบๆได้ ว่า “White Wood” ที่หาดไม้ขาวนั้นเราจะสามารถได้รับการสัมผัสชีวิตที่รมรืนย์เพราะนอกจากจะมีรีสอร์ทให้เราได้พักผ่อนแล้วเรายังจะหาดที่สวยงามที่อยู่ใกล้กับสนามบิน ที่เมื่อเวลาเราไปพักก็สามารถที่จะออกมาเดินเล่นในเวลายามเย็นสัมผัสอากาศสบายๆของหาด พร้อมกับการเก็บภาพบรรยากาศสวยๆของชายหาดตลอดระยาทางหลายกิโลเมตรได้และสิ่งที่น่าสนใจอีกที่หนึ่งคือเพราะมันอยู่ใกล้กับสนามบิน จึงทำให้เราสามารถถ่ายรูปคู่กับเครื่องบินที่บินมาลงจอดหรือว่าบินขึ้นออกจากสนามบินแล้วบินผ่านหาดไม้ขาวไปได้ซึ่งเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แต่ทว่าด้วยความที่หาดไม้ขาวนั้นน้ำทะเลมีการลดตัวลงออกจากทะเลไปสู่ทะเลอันดามันอย่างเร็วมากเลยทำมันเป็นที่อันตรายมากต่อการที่จะมาว่ายน้ำเล่นที่หาดแห่งนี้ในช่วงเดือนพฤษภาคมตลอดจนถึงช่วงเดือนพฤศจิกายน

ณ ที่อ่าวเล็กๆน้อยๆแห่งกะตะน้อยนี้คุณพร้อมที่จะสัมผัสกับบรรยากาศสบายๆที่สามารถค้นหาได้ในตอนท้ายของริมชายหาด Cul-De-Sac. เพียงแค่ขับรถออกมาไม่นานมากนักจากตัวหาดกะตะ.แต่ว่าการที่จะไปอยู่ยัง ณ ที่ชายหาดกะตะน้อยนั้น มันก็ค่อนข้างจะไม่ค่อยไม่อะไรให้ทำมากสักเท่าไหร่นักนอกเหนือจากการที่เราจะไปที่นั้นเพียงเพื่อไปรับชมทัศนีย์ภาพอันยอดเยี่ยมงดงามของหาดกะตะน้อยซึ่งที่นี้ก็เป็นจุดที่เหมาะสมแล้วละที่จะมารับชมบรรยากาศของท้องทะเล. การพักผ่อนหย่อนใจลองใช้เวลาเดินทางเท้าบนพื้นสายที่นุ่มๆเหล่านั้นดูสิ หรือจะไปดำน้ำหรือไปว่ายน้ำในหาดกะตะน้อยก็ได้นะลองดูว่ามีอะไรบ้างในท้องทะเลที่นั้นไปดูว่ามันสวยขนาดไหนกันเชียว แต่ก่อนหรือมานานมาแล้วนั้นหาดกะตะน้อยเคยเป็นที่นิยมมากสำหรับนักโต้คลื่นในช่วงฤดูมรสุ่มระหว่างเดือนพฤษภาคมตลอดจนถึงช่วงเดือนตุลาคมแต่ถึงแม้ว่ามันจะมีความเป็นอันตรายมากต่อการที่จะมาเล่นน้ำทะเลในช่วงเดือนเหลานั้นแต่มันก็ยังเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวอยู่เหมือนกัน เพราะว่าไม่ใช่เพียงนั้นจะมีจุดไว้ให้เฉพาะแต่เล่นน้ำเท่านั้นที่หาดกะตะน้อยนั้นยังมีพื้นที่บางส่วนบนภูเขาที่สามารถทำให้เราสามารถมองลงมาข้างล่างแล้วมองเห็นวิวด่านล่างของสามอ่าว ซึ่งต่อมากลายเป็นชื่อเรียกว่าจุดชมวิวสามอ่าว ที่มาของชื่อจุดชุมวิวนี้มาจากการที่มันมองเห็นอ่าวสามอ่าวด้วยกันชื่อ อ่าวกะรน อ่าวกะตะ และอ่าวกะตะน้อยนั้นเองซึ่งใช้เวลาไม่นานเหมือนกันเพียงแค่ 5 นาทีที่จะขับรถขึ้นไปชมวิวบนเขาเพื่อชมอ่าวสามอ่าวพร้อมกับเส้นทางที่สามารถขับไปยังหาดในหานได้อีกด้วย

ขอเชิญชวนพวกเรามาพบกับความสนุกสนานและความน่ารื่นรมย์แห่งอ่าวกะตะกันเถอะ! อ่าวกะตะใช่เวลาเดินทางมาไม่นานมากเท่าไหร่ ห่างจากหาดกะรนตอนใต้เพียงแค่ไม่กี่นาทีเอง หาดกะตะนั่นมีเสน่ห์ที่ดึงดูดความสนใจเหล่าบรรดาผู้มาเยือนหรือนักท่องเที่ยวมากมายด้วยชายหาดที่มีเม็ดทรายสีขาวบริสุทธิ์ชวนให้น่าหลงใหลกับน้ำทะเลทีใสสะอาดของชายหาดจึงทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนที่นี่กันมากมายนั่นเอง หาดกะตะเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากเหมาะสำหรับคนที่มากันเป็นครอบครัวมานั่งเล่นสบายๆ รับลมเย็นๆ จากชายหาด. หาดกะตะที่เป็นที่ชื่นชอบนั้นก็เพราะว่ารอบตัวหาดของมันนั้นถูกรายล้อมไปด้วยต้นปาล์มที่ถูกปลูกเรียงกันไว้อย่างสวยงามนั่นเอง. อีกทั้งหาดกะตะมีร้านอาหารอร่อยๆยอดเยี่ยมหลายแห่งๆอีกด้วย เป็นหาดที่ที่น่าอยู่แต่ว่าแถบจะไม่ค่อยมีความเข้มงวดกับการใช้ชีวิตในตอนกลางคืนและตัวเลือกในการเข้าพักอยู่นั้นก็ไม่ค่อยมีให้เลือกพักมากสักเท่าไรเช่นกัน.ซึ่งส่วนใหญ่แล้วที่มีให้เลือกนั้นก็จะติดกับหน้าหาดทั้งนั้น. ในช่วงเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนตุลาคมนั้นก็จะมีบรรดาเหล่านักโต้คลื่นมาเล่นทะเลโต้คลื่นกันที่หาดกะตะกันมากและในทางกลับกันช่วงเดือนเมษายนจนถึงเดือนพฤศจิกายนที่หน้าชายนั้นก็จะเต็มไปด้วยบรรดาเหล่าผู้คนที่ชื่นชอบในการอาบแดดเต็มไปหมด.